ใครที่กำลังต้องการลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม แบบร่างกายไม่ทรมาน วันนี้ต้องไม่พลาดกับบทความนี้นะคะ
สาว ๆ หลายคนอาจจะใช้วิธีมาหลายรูปแบบไม่ว่าจะกินยาดักไขมันบ้าง เครื่องดื่มชาสมุนไพรที่เคลมว่าทำให้น้ำหนักลดได้บ้าง หรือวิธีการลดน้ำหนักแบบอื่น ๆ แต่สุดท้ายก็ยังอ้วนอยู่เหมือนเดิมเราจะมาบอก How To ชีวิตไม่ต้องบัดซบก็สามารถลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ง่ายๆ โดยสิ่งสำคัญคือจะต้องไม่ตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลข ไม่งั้นสาว ๆ จะยึดติดอยู่กับตัวเลข แต่ไม่ได้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ตรงกับเป้าหมายที่เราตั้งใจนั่นเอง และสุดท้ายก็จบลงด้วยการกลับมาอ้วนแบบเดิม
สาว ๆ หลายคนอาจจะใช้วิธีมาหลายรูปแบบไม่ว่าจะกินยาดักไขมันบ้าง เครื่องดื่มชาสมุนไพรที่เคลมว่าทำให้น้ำหนักลดได้บ้าง หรือวิธีการลดน้ำหนักแบบอื่น ๆ แต่สุดท้ายก็ยังอ้วนอยู่เหมือนเดิมเราจะมาบอก How To ชีวิตไม่ต้องบัดซบก็สามารถลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ง่ายๆ โดยสิ่งสำคัญคือจะต้องไม่ตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลข ไม่งั้นสาว ๆ จะยึดติดอยู่กับตัวเลข แต่ไม่ได้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ตรงกับเป้าหมายที่เราตั้งใจนั่นเอง และสุดท้ายก็จบลงด้วยการกลับมาอ้วนแบบเดิม
วันนี้เราเลย จะมาบอกเคล็ดลับว่าควรทำอย่างไรถึงจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี และน้ำหนักลดได้สมดังใจ รวมถึงสิ่งที่ไม่ควรทำระหว่างการลดน้ำหนัก จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ!!
Don’t: เลิกซะกับการลดน้ำหนักแบบ Fad Diet
Do: หันมารับประทานอาหารปกติ
Fad Diet สาว ๆ หลายคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าสามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่ขอบอกว่ามันเป็นอันตรายมากกว่าที่คิด เพราะ Fad Diet ทำมาเพื่อควบคุมหรือลดน้ำหนักจำนวนมากในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถใช้ลดน้ำหนักได้ในระยะยาว พอเลิกกินก็กลับมาอ้วนแบบเดิม หรือที่เราเรียกว่า Yo Yo Effect นั่นเอง แต่ถ้าใครเลือกทานแบบนี้ต่อไป เพราะคิดว่าร่างกายจะได้ผอมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ขอบอกว่าคิดผิดอย่างแรงค่ะ เพราะร่างกายจะขาดสารอาหารและส่งผลต่อร่างกายในเชิงลบระยะยาว นอกจากนี้การกินแบบจำกัดแบบนี้จะทำให้สาว ๆ เครียดได้ และทำให้ร่างกายหลั่งสารคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดชนิดหนึ่งที่จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้! รู้แบบนี้หันมารับประทานอาหารแบบปกติดีกว่านะคะ ตารางจำกัดอาหารทิ้งไปให้หมด ถ้าไม่อยากอ้วนในระยะยาวค่ะ
Don’t: เลิกซะกับการไม่กินเนื้อสัตว์เพราะต้องการอยาก Detox ร่างกาย
Do: หันมารับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
โปรตีนต้องใช้พลังงาน 25% ของร่างกายในการย่อย ซึ่งใช้พลังงานมากกว่าการย่อยแป้งเสียอีก ทำให้ร่างกายถูกเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นกว่าเดิม โดยที่เรากินอาหารน้อยลง จากการวิจัยพบว่าร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะย่อยปลาแซลมอนมากกว่าพาสต้าหนึ่งชาม และการกินโปรตีนเข้าไปจะทำให้ร่างกายหลังสารฮอร์โมนที่ชื่อว่า Leptin ที่จะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และนานขึ้นด้วย รู้แบบนี้แล้วหันมารับประทานอาหารจำพวกโปรตีนให้มากขึ้น เพียงแค่กินอาหารพวกโปรตีนเข้าไป นอกจากจะทำให้ร่างกายมีแรงแล้ว ยังทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นอีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นการที่สาว ๆ อดพวกเนื้อสัตว์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ผอมลง ต้องรีบทิ้งความคิดนี้ไปเลยจ้า
Don’t: เลิกซะกับการห้ามตัวเองในการกินอาหารมากเกินไป
Do: หันมาเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อย่างที่รู้กัน เวลาที่เราชอบอะไรสักอย่างแต่ต้องพยายามให้ใจตัวเองเอาไว้ สุดท้ายแล้วเวลาเราโหยมาก ๆ เราจะจัดหนัก จัดเต็มมากกว่าเดิมอีก และสุดท้ายสิ่งที่เราอดทนมามันก็พัง! ดังนั้นหากสาว ๆ อยากกินอะไรก็กินค่ะ แต่ให้เลือกกินในปริมาณที่น้อยลง แล้วให้ใช้วิธีการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเข้ามาแทรก เช่นยามบ่ายถ้าหากหิวลองเปลี่ยนจากชานมไข่มุกเป็นถั่วอัลมอนด์เคี้ยวเพลิน ๆ แทน อร่อยแถมมีประโยชน์ และพยายามกินของสดให้มากขึ้น และถ้าเป็นได้พยายามเพิ่มผักให้เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารหลักเป็นประจำให้ร่างกายชินกับสิ่งที่มีประโยชน์ และที่สำคัญต้องเป็นของที่เราชอบกินด้วยนะคะ จะยิ่งทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีความสุขขึ้นเยอะเลยค่ะ
Don’t: เลิกซะกับการอดอาหารแล้วดื่มแต่น้ำอื่น ๆ ที่ไม่ใช้น้ำเปล่า
Do: หันมาทานน้ำเปล่าสะอาดแทน
สาว ๆ ที่รู้ตัวว่าชอบทานน้ำหวานเช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ อะไรจำพวกนี้ลองหันมาดื่มน้ำเปล่าแทนดีกว่า โดยวิธีการดื่มไม่ใช่ดื่มทีเดียวในปริมาณมาก ๆ นะคะ แต่วิธีการดื่มน้ำที่ถูกต้อง ควรที่จะจิบไปเรื่อย ๆตลอดวัน จากกาวิจัยพบว่าการดื่มน้ำเปล่าแบบจิบ ๆ ตลอดวันจะช่วยลดแคลอรี่ และดับความกระหายได้ ซึ่งเวลาที่เราหิวน้ำบางคนอาจเกิดการสับสนว่านี่คือการหิวน้ำ หรือหิวข้าวกันแน่ค่ะ และถ้าเป็นไปได้ลองผสมเกลือลงไปในน้ำเปล่าสักเล็กน้อย เกลือจะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำได้ดียิ่งขึ้น หากดื่มน้ำเพียว ๆ ร่างกายจะดูดซึมได้ไม่เต็มที่ ทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยนั่นเองจ้า
Don’t: เลิกซะกับการนอนดึก ๆ หรืออดหลับอดนอน
Do: ควรนอนอย่างน้อยให้ได้ 7 ชั่วโมงต่อวัน
สาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนักควรเข้านอนเร็วขึ้น หรือนอนอย่างน้อยให้ได้วันละ 7 ชั่วโมง เมื่อร่างกายของสาว ๆ เหนื่อยล้า บางคนจะมีความโหยหาอาหารมากระแทกปากกัน และส่วนใหญ่อาหารเหล่านั้นมักจะเป็น Junk Food หรืออาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่นพวกแป้ง น้ำตาล ของทอด เป็นต้น และจากการวิจัยพบว่าคนที่นอนน้อย มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักตัวสูงมากกว่าปกติ สาว ๆ รู้แบบนี้แล้วลองปรับเวลาชีวิตดูนะคะ นอนให้เร็วขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี หน้าไม่เหี่ยวด้วยค่ะ
Don’t: เลิกซะกับการบ้าคลั่งในการลดน้ำหนักที่มากเกินไป
Do: ควรที่จะหลีกเลี่ยงกำหนดเป้าหมายเป็นตัวเลข
จากการวิจัยพบว่าหากคนเราตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนักด้วยตัวเลข จะมีความรู้สึกท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ และสุดท้ายมีแนวโน้มที่จะยอมแพ้กับการลดน้ำหนัก ดังนั้นสิ่งที่สาว ๆ ควรจะโฟกัสคือ สุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น ร่างกายที่กระชับขึ้น ความรู้สึกที่แข็งแรงขึ้นมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของตัวเลข หากเราเปลี่ยนโฟกัสได้รับรองว่าเราจะมีกำลังใจในการลดน้ำหนักได้มากขึ้นค่ะ เช่นหาเสื้อผ้าที่เราเคยใส่ได้มาเป็นแรงบันดาลใจ รับรองว่าน้ำหนักที่ลดลงตามมาอย่างแน่นอนค่ะ
Don’t: เลิกซะกับการบ้าคลั่งออกกำลังกายทั้งวี่วัน
Do: ควรที่คิดซะใหม่ว่าแท้จริงแล้วการออกกำลังกายหมายถึงอะไร
แน่นอนว่าการออกกำลังติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไปจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกท้อได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นให้ลองเปลี่ยนความคิดจากเดิมที่หมกตัวอยู่แต่ในยิม วิ่งอยู่บนลู่วิ่งเป็นชั่วโมง ๆ ลองเปลี่ยนมาทำกิจกรรมที่เราชอบ เช่นเข้าคลาสเต้น หรือไปวิ่งรอบ ๆ หมู่บ้าน หรือจะปูเสื่อเล่นโยคะแทน จากวารสาร PLOS ONE พบว่าการออกกำลังเพียง 10 นาทีแบบจริงจังจะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย แท้จริงแล้วหากเราออกกำลังกายแบบจริงจังเพียงหนึ่งนาทีก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกันค่ะ ดังนั้นเลิกบ้าพลัง แล้วหันมาโฟกัสการออกกำลังที่มีประโยชน์กับเรา ด้วยเวลาที่เหมาะสมอย่างแท้จริงดีกว่าค่ะ
Don’t: เลิกซะกับการไม่กินอาหารที่มีไขมัน “ดี”
Do: ลองทำอาหารทานเองดูบ้าง
เชื่อว่าเวลาลดน้ำหนักสาว ๆ ของเราจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทั้งหมด แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความคิดที่ผิดนะคะ เพียงแค่สาว ๆ เลือกทานอาหารที่มีไขมันที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกายก็พอ จากการวิจัยพบว่าหากเราทานอาหารที่มีไขมันดี เช่น อโวคาโด หรือทานอโวคาโดคู่กับสลัดก็สามารถทำให้สาว ๆ อิ่มท้องและฟินกับอาหารจานนั้นได้โดยที่ไม่โหยอาหารที่ไม่มีประโยชน์ภายหลัง และช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย และถ้าสาว ๆ พอมีเวลาลองทำอาหารทานเองในวันหยุด นอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย เพราะเราเป็นคนเลือกวัตถุดิบเอง ทำเอง รับรองว่าสะอาดและดีต่อสุขภาพแน่นอน ส่วนความอร่อยนี่อีกเรื่องหนึ่งจ้า
จบไปแล้วกับ ทริคลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ง่ายๆ สรุปง่าย ๆ คืออย่าไปจำกัดตัวเองมากเกินไป อย่าไปตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนักด้วยตัวเลข แต่ควรที่จะมาปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกหลัก ถูกต้อง ฝึกทำให้เป็นประจำ รับรองว่า 5 กิโลกรัม เนี่ยจิ๊บ ๆ และแถมมาด้วยสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อโดยที่สาว ๆ ยังคงมีความสุขด้วยค่ะ ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ เห็นผลอย่างไรลองมาแชร์กันค่ะ