สวัสดีคะสาวๆทั้งหลายค่ะะะ
นอกจากการควบคุมอาหาร กิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน ล่วนส่งผลต่อสุขภาพและรูปร่างของเราทั้งสิ้น ยิ่งสามารถเผาผลาญพลังงานที่ได้รับมากเท่าไร ความผอมเพรียวก็อยู่แค่เอื้อม
กิจกรรมในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงออกกำลังกายเป็นอีกหนทางที่จะนำไปสู่การมีรูปร่างที่สมส่วนและสุขภาพที่ดี แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยในด้านเวลาด้วย ยิ่งเป็นยุคสมัยปัจจุบันด้วยแล้ว การใช้เวลาอย่างคุ้มค่าย่อมเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตอย่างเร่งรีบเป็นอย่างมาก
วันนี้เรา จึงขอนำ 10 กิจกรรมเด็ดที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ของสาวๆ ได้มากถึง 500 แคลอรี่ ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงมาฝาก
1.กระโดดเชือก
การกระโดดเชือกอาจเคยเป็นการเล่นสนุกของสาวๆ ในวัยเด็กมาก่อน แต่รู้หรือไม่ว่าสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 แคลอรี่ จากการกระโดดเชือก 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นท่าทางแปลกใหม่ในการกระโดดเชือกเพื่อเพิ่มเติมความสนุกให้กับผู้เล่นอีกด้วย
คำเตือน : เพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ ควรหยุดพักระหว่างการกระโดดเชือก และบริหารร่างกายยืดเส้นสายในส่วนต่างๆ เป็นระยะๆ ตลอดการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ และควรเริ่มต้นจากระยะเวลาน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนกระทั่งครบ 1 ชั่วโมงเต็ม
2.ปั่นจักรยาน
การปั่นจักรยานด้วยความเร็วที่เหมาะสม ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 500 แคลอรี่ใน 1 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ควรออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานด้วยระยะเวลาตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป โดยควรปั่นจักรยานก่อนการรับประทานอาหารเช้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด และหากเป็นการปั่นในระยะทางไกล ก็สามารถรับประทานอาหารเบาๆ ได้ระหว่างการปั่น เพื่อไม่ให้เกิดอาการหิวจนรับประทานมากเกินขนาดหลังการออกกำลังกาย
คำเตือน : สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งในการปั่นจักรยานเพื่อลดน้ำหนัก นอกจากนี้ควรเลือกขนาดของจักรยานให้เหมาะสมกับร่างกายและการใช้งาน เลือกใช้อานรวมไปถึงปรับตำแหน่งของมันให้ถูกต้อง อย่าหักโหม และควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายด้วย
เคล็ดลับในการปั่น : เบรคพร้อมกันทั้งด้านหน้าและหลัง ใช้เกียร์ให้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการปั่นจักรยานโดยใช้เกียร์สูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าได้
3.ว่ายน้ำ
การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย และเหมาะสำหรับสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนเป็นอย่างมาก โดยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สาวๆ ได้ออกแรงกล้ามเนื้อทุกส่วนๆ เป็นการลดไขมันส่วนเกิน อีกทั้งยังเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 500 แคลอรี่ต่อ 1 ชั่วโมงเช่นกัน
เคล็ดลับในการว่ายน้ำท่าต่างๆ : ท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Stroke) หากว่ายด้วยความเร็วปานกลาง ผลลัพธ์ที่ได้คือการกระชับกล้ามเนื้อลำตัว ช่วงไหล่ และบริเวณต้นขาด้านหลัง
ท่ากบ (Breaststroke) ช่วยเผาผลาญพลังงานและกระชับกล้ามเนื้อในส่วนต้นแขน ต้นขาด้านหน้า รวมไปถึงต้นขาด้านหลังให้แข็งแรง ปราศจากไขมันส่วนเกิน
ท่ากรรเชียง (Backstroke) ผลลัพธ์ที่ได้จากท่านี้คือการกระชับหน้าท้องให้แบนราบ
ท่าผีเสื้อ (Butterfly Stroke) เป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ได้ผลมากที่สุด สามารถเผาผลาญและช่วยในการกระชับกล้ามเนื้อทั้งในส่วนของหัวไหล่ หน้าอก ลำตัว หลัง และขาให้ได้สัดส่วนสวยงาม
4.แอโรบิก
การออกกำลังกายด้วยการเต้นประกอบเพลง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการออกกำลังกายสมัยใหม่อีกมากมาย อันเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมแสนสนุกที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 500 แคลอรี่ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ได้ทั่วทั้งร่างกายเลยทีเดียว
การเต้นแอโรบิก นอกจากจะช่วยลดความอ้วนแล้ว ยังทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น รวมไปถึงส่งเสริมระบบเคมีในเลือดให้เป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด
หากต้องการเต้นแอโรบิกเพื่อลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็ควรเต้นในระยะเวลาตั้งแต่ 30 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมงอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน และเต้นด้วยท่าทางที่เพียงพอจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นจากเดิม 60 – 80 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการเต้นสูงสุด
นอกจากนี้หลังการเต้นไม่ควรนั่งพักทันที แต่ให้เดินไปมาสัก 1-2 นาที เพื่อปรับลดอัตราการเต้นของหัวใจให้เข้าสู่สภาวะปกติ
5.เต้นซุมบ้า (Zumba)
การเต้นซุมบ้า เป็นการออกกำลังกายแนวใหม่จากการผสมผสานท่าเต้นสไตล์ละติน-อเมริกา ระบำหน้าท้องของอินเดีย แอโรบิก และฮิปฮอปเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ผู้เต้นได้รับทั้งความสนุกสนาน รวมไปถึงได้ฝึกสเต็ปลีลาการเต้น ผ่อนคลายความเครียดไปกับจังหวะเพลงมันส์ๆ มากมาย โดยมีผลพลอยได้สำคัญเป็นการเผาผลาญพลังงานที่มากถึง 500 แคลอรี่ ต่อ 1 ชั่วโมง หรือาจมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับลีลาเด็ดของสาวๆ แต่ละคน
การเต้นซุมบ้ามีข้อดีตรงที่เราสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้ในทุกส่วนของร่างกาย พร้อมกันนี้ยังได้รับความสนุกสนานจากการออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายหลั่งสาร Endorphin หรือสารแห่งความสุข ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งในขณะที่อารมณ์ดี โดยเฉพาะหลังการออกกำลังกาย ช่วยลดความเจ็บปวดภายในร่างกายได้อีกด้วย
6.วิ่ง
การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ใช้เผาผลาญพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถลดไขมันส่วนเกินได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยการวิ่งเพื่อเผาผลาญแคลอรี่ควรวิ่งตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไปจนถึง 1 ชั่วโมง และควรวิ่งในลู่วิ่งหรือวิ่งตามสวนสาธารณะมากกว่าวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า เพื่อให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์และเป็นการผ่อนคลายคลายเครียดไปด้วย
คำเตือน : ควรเลือกรองเท้าสำหรับวิ่งที่สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา รวมไปถึงช่วยรักษาสมดุลข้อเท้าไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ และควรวิ่งเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกวัน แต่ไม่ควรหักโหมมากเกินกว่าที่ร่างกายของเราจะรับได้
7.HIIT (Hight-Intensity Interval Training)
การออกกำลังกายแนวใหม่แบบคาร์ดิโอ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายอย่างหนักสลับเบา และเป็นที่นิยมกันมากในช่วงนี้ เพราะช่วยให้ผู้เล่นสามารถออกกำลังในทุกๆ ส่วนของร่างกายได้อย่างเต็มที่ เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ อีกทั้งยังช่วยเบิร์นแคลอรี่ออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว โดย 20-30 นาที จะสามารถเบิร์นแคลอรี่ได้ถึง 500 แคลอรี่เลยทีเดียว
การออกกำลังกายแบบ HIIT สามารถเลือกอัตราส่วนของการออกกำลังกายหนัก-เบาได้ตามใจชอบ ตั้งแต่ 1 : 2 (หนัก 15 วินาที เบา 30 วินาที) หรือ 1 : 3 (หนัก 15 วินาที : เบา 45 วินาที) และอาจเพิ่มเป็น 1:1 (หนัก 30 วินาที เบา 30 วินาที) ได้ หากเริ่มเคยชินกับการออกกำลังกายวิธีนี้แล้ว ตัวอย่างเช่น สูตร 1 : 2 คือ การวิ่งเร็ว 15 วินาที สลับกับการวิ่งเหยาะ ๆ 30 วินาที ไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
นอกจากนี้อาจจัดสรรการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัว อย่างเช่น วิดพื้น ซิทอัพ หรือ กระโดด สลับกับการพักก็ได้ ตัวอย่างเช่น ซิทอัพ 50 ครั้ง สลับกับการพัก 30 วินาที ไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
8.มวย
กีฬาสำหรับหนุ่มๆ ที่สาวๆ หันมานิยมเล่นกันมากขึ้น ซึ่งช่วยเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี รวม 1 ชั่วโมงสามารถเผาผลาญได้ 500-1,000 แคลอรี่ จากการเตะ ต่อย ศอก เข่า หมัด คลายเครียดไปกับกระสอบทราย ทุกท่วงท่าในการชกมวยล้วนช่วยให้เราได้เหงื่อ และกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายได้ทั้งสิ้น
คำเตือน : หากไม่เคยชินกับการใช้กระสอบทราย ควรฝึกซ้อมแบบไม่ใช้กระสอบทรายให้คล่องแคล่วเสียก่อน และไม่ควรหักโหมจนเกินไป นอกจากนี้ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย
9.โยคะร้อน (Hot Yoga)
การเล่นโยคะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้สาวๆ สุขภาพดีและมีร่างกายที่สมส่วน แต่จะทำอย่างไรล่ะให้เราสามารถเผาผลาญพลังงานจากการเล่นโยคะได้มากถึง 500 แค่ลอรี่ในเวลาแค่เพียง 1 ชั่วโมง
โยคะร้อน หรือ Hot Yoga เป็นการเล่นโยคะภายในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส ซึ่งนับเป็นอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับอุณหภูมิปกติของร่างกายมนุษย์ ช่วยให้การเผาผลาญเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และหากสาวๆ ลองเผาผลาญพลังงานด้วยวิธีนี้กันดูล่ะก็ ร่างกายที่ผอมเพรียวสมส่วนหรือจะอยู่ไกลเกินเอื้อม
คำเตือน : หากยังไม่เคยเล่นโยคะร้อนมาก่อน ควรเริ่มต้นจากระยะเวลาไม่มาก เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล แล้วจึงค่อยเพิ่มระยะเวลาในการเล่นจนกระทั่งครบ 1 ชั่วโมง
10.เล่นแบดมินตัน และเทนนิส
สองกีฬายอดฮิตในหมู่คนทุกเพศทุกวัย ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยในด้านการเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นการเหวี่ยงไม้หรือวิ่งรับ-ส่งลูก ล้วนเรียกเหงื่อให้กับสาวๆ ได้ตลอดระยะเวลาของการเล่น ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รูปร่างของเราสวยงามสมส่วน จากการเผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 แคลอรี่ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
คำเตือน : กีฬาสองชนิดนี้อาจไม่เหมาะกับสาวๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพขาหรือเท้า รวมไปถึงในส่วนข้อและเส้นเอ็นต่างๆ เพราะอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ แต่ไม่เป็นไรเรายังมีอีก 9 วิธี ที่จะช่วยให้สาวๆ ทุกคนผอมเพรียวไปด้วยกัน
ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ช่วยลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน และเผาผลาญพลังงานจากการรับประทานอาหาร แม้ว่ามันอาจไม่สามารถกำจัดแคลอรี่ออกไปได้มากถึง 500 แคลอรี่ต่อชั่วโมง แต่หากสาวๆ สนุกสนานกับการประกอบกิจกรรมนั้นๆ แล้ว ก็ถือเป็นการช่วยส่งเสริมสุขภาพในด้านจิตใจ รวมทั้งผ่อนคลายความเครียดจากการดำเนินชีวิตได้เช่นกัน